ทำไม?ต้อง ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยท่อ PVC
ทำไม?ต้อง ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยท่อ PVC ผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) คือ ผักที่ปลูกโดยใช้น้ำแทนดิน ซึ่งโดยปกติแล้วพืชผักจะดูดซึม สารอาหารที่อยู่ในดิน แต่วิธีการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ จะนำเอาแร่ธาตุสารอาหารมาละลายในน้ำ หรือที่เรียกกันว่า “ปุ๋ยน้ำ” ให้รากของพืชทำการดูดซึม โดยมากจะนิยมให้น้ำมีการไหลหมุนเวียนเบาๆ เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนให้แก่รากพืช ซึ่งในต่างประเทศการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มีต้นทุนค่อนข้างสูงเพราะอุปกรณ์ที่ใช้มีราคาค่อนข้างแพง แต่ในประเทศไทยได้มีการดัดแปลงรางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยการใช้ท่อPVC แทน จึงทำให้การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยท่อPVC มีต้นทุนที่ต่ำลงมากจนสามารถนำมาใช้ปลูกกินเองภายในบ้านได้
วิธีการทำรางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยท่อ PVC
1. ออกแบบขนาดรางและระบบจ่ายน้ำสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยท่อPVC ต้องออกแบบระบบไหลเวียนของน้ำว่าจะเป็นในรูปแบบไหน ต้องใช้ปั๊มน้ำขนาดเท่าไหร่ แม้ผักไฮโดรโปนิกส์ต้องการน้ำไหลเวียนเบาๆ แต่ก็ต้องคำนึงถึงแรงดันในการจ่ายน้ำ เพราะยิ่งมีจำนวนรางมากหรือรางที่ยาวมากแรงดันน้ำก็จะไปถึงปลายรางได้ช้าลง เบาลง ซึ่งถ้าหากใครไม่ต้องการใช้ปั๊มน้ำ ก็สามารถใช้ระบบถ่ายเทน้ำลงตามชั้นปลูกผักแทนได้ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับแปลงปลูกผักเล็กๆ ไว้รับประทานเองในครัวเรือน
2. ทำรางปลูกผัก ใช้ท่อ PVC ขนาด 3 นิ้ว ขอบบาง นำมาเจาะให้เป็นรูที่มีขนาดพอจะใส่กระถางสำหรับปลูกผักแต่ละต้น แบ่งระยะห่างตามความต้องการ แล้วใช้ตะไบลบเหลี่ยมให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เหลี่ยมบาดราดผักจนขาด
3. ทำฝาครอบหัวและท้ายรางปลูกผัก โดยหัวรางใช้ข้องอ PVC ขนาด 3 นิ้ว (ขนาดเดียวกับท่อ) ครอบเป็นหัวรางเพื่อรับน้ำ ส่วนท้ายรางใช้ฝาครอบ PVC ขนาด 3 นิ้ว (ขนาดเดียวกับท่อ) มาเจาะเพื่อใส่ข้องอ PVC ขนาด ½ นิ้ว เกลียวนอก อย่าลืมทากาวที่รอยต่อชั้นนอกเพื่อกันรั่ว
4. ทำท่อจ่ายน้ำ โดยส่วนหัวรางจะเป็นตัวรับน้ำ ให้นำท่อ PVC สำหรับจ่ายน้ำมาเจาะรู เพื่อให้น้ำไหลจากถังจ่ายน้ำลงหัวราง ส่วนท้ายรางที่เราทำเป็นฝาครอบต่อกับข้องอ PVC ขนาด ½ นิ้ว ให้คว่ำหัวจ่ายลงเพื่อให้น้ำไหลลงท่อที่มารองรับ โดยเจาะรูให้พอดีกับข้องอ PVC ขนาด ½ นิ้ว แล้วนำมาสวมกันไว้ เพื่อส่งน้ำกลับไปยังถังจ่ายน้ำ
5. ต่อปั้มน้ำเข้ากับท่อส่งน้ำ เพื่อสูบน้ำจากถังน้ำจ่ายเข้าหัวราง แล้วปล่อยให้น้ำไหลผ่านรางปลูกไปยังรางต่างๆ ก่อนกลับไปยังถังจ่ายน้ำอีกที
การ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยท่อ PVC แทนการปลูกด้วยดินนั้น ทำให้เราสามารถควบคุมให้ผักปลอดสารพิษและแมลงได้ง่ายกว่า ไม่ต้องกำจัดวัชพืช ไม่ต้องไถพรวนหน้าดินให้เสียเวลา ผักได้รับสารอาหารผ่านน้ำจึงเติบโตได้ไว ปลูกได้ตลอดทั้งปี และการใช้ท่อ PVC มาดัดแปลงจึงช่วยลดตั้งทุนได้มาก จึงเหมาะที่จะปลูกเพื่อเก็บกินภายในบ้านหรือปลูกเพื่อขายส่งก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ ทำให้เกษตรกรหลายคนหัวมาปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ด้วยท่อPVCเพื่อขายกันมากขึ้น
เลือกท่อยังไง? ให้เหมาะกับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
ท่อพีวีซีที่ดีและมีคุณภาพ ได้รับมาตรฐาน มอก. มอก. จะต้องมีความทนทานและแข็งแรง โดยระยะ การใช้งานจะต้องใช้งานได้มากถึง 60 ปีขึ้นไป มีขนาดตั้งแต่ 1⁄2 นิ้ว จนถึง 24 นิ้ว สำหรับใช้เป็นท่อน้ำดื่ม ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. 17-2532 ท่อชนิดนี้เป็นที่นิยม ใช้งานประปาสุขาภิบาล ภายในอาคาร เช่น ใช้เป็นท่อน้ำประปา หรือใช้กับปั๊มน้ำ มีการระบุมาตรฐานความดันหรือชั้นคุณภาพ ได้แก่ 5, 8.5,13.5 และท่อpvc ยังมีสีอื่นๆอีก เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน หรือความต้องการของ บุคคลนั้นๆไม่ว่าจะเป็น ท่อpvcสีฟ้า สีเหลือง สีขาวและ สีเทา
ท่อ PVC สีเหลือง เป็นท่อพีวีซีที่ผลิตขึ้นมาเพื่อให้ทนต่อความร้อน สามารถเดินท่อภายนอกอาคารได้ ท่อพีวีซีสีเหลือง มักจะถูกใช้งานประเภทท่อร้อยสายไฟ เป็นการเดินสายไฟในโรงงาน หรือในสถานที่ที่อาจมีอันตรายต่อสายไฟ จึงต้องการฉนวนห่อหุ้ม เพื่อไม่ให้เกิดสัมผัสกับสายไฟโดยตรง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ท่อPVCสีเหลือง
ท่อ PVC สีขาว หรือ uPVC ใช้สำหรับงานท่อร้อยสายไฟฟ้า และสายโทรศัพท์ เช่นเดียวกับท่อพีวีซีสีเหลือง แม้ขณะนี้จะยังไม่มีมาตรฐาน มอก. มารับรอง แต่ท่อก็ผลิตขึ้นตามมาตรฐานอื่น คือ มาตรฐาน JIS มีขนาด 3/8 นิ้วจนถึง 2 นิ้ว และมาตรฐาน BS (IEC) มีขนาด 3/8 นิ้วจนถึง 1-1/2 นิ้ว สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ท่อPVCสีขาว
ท่อพีวีซี สีเทา ตามมาตรฐาน มอก. 999-2533 เป็นท่อพีวีซีแข็งใช้สำหรับงานอุตสาหกรรม ชลประทาน กำหนดชั้นคุณภาพเช่นเดียวกับท่อพีวีซีสีฟ้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ท่อPVCสีเทา โดยมีขนาดดังนี้
½” (สี่หุน) หรือ 18 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 22 มม.
¾” (หกหุน) หรือ 20 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 26 มม.
1” หรือ 25 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 34 มม.
1¼” หรือ 35 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 42 มม.
1½” หรือ 40 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 48 มม.
2” หรือ 55 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 60 มม.
2½” หรือ 65 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 76 มม.
3” หรือ 80 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 89 มม.
4” หรือ 100 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 114 มม.
5” หรือ 125 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 140 มม.
6” หรือ 150 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 165 มม.
8” หรือ 200 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 216 มม.
10” หรือ 250 มม. – เส้นผ่าศูนย์กลาง 267 มม./ 12″300 มม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 318 มม.
Leave a Comment
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น